วันศุกร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2554

ทิศ 6


ทิศ 6 บุคคลประเภทต่างๆ ที่เราต้องเกี่ยวข้องสัมพันธ์ทางสังคมดุจทิศที่อยู่รอบตัว
  1. ทิศเบื้องหน้า คือ ทิศตะวันออก (ปุรัตถิมทิศ) ได้แก่ มารดาบิดา เพราะเป็นผู้อุปการะแก่เรามาก่อน
    ก. บุตรธิดาพึงบำรุงมารดาบิดา ผู้เป็นทิศเบื้องหน้า ดังนี้
    1. ท่านเลี้ยงเรามาแล้ว เลี้ยงท่านตอบ
    2. ช่วยทำการงานของท่าน
    3. ดำรงวงศ์สกุล
    4. ประพฤติตนให้เหมาะสมกับความเป็นทายาท
    5. เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ทำบุญอุทิศให้ม่าน
    ข. บิดามารดาย่อมอนุเคราะห์บุตรธิดา ดังนี้
    1. ห้ามปรามจากความชั่ว
    2. ให้ตั้งอยู่ในความดี
    3. ให้ศึกษาศิลปวิทยา
    4. หาคู่ครองที่สมควรให้
    5. มอบทรัพย์สมบัติให้ในโอกาสอันสมควร
  2. ทิศเบื้องขวา คือ ทิศใต้ ( ทักษิณทิศ) ได้แก่ ครูอาจารย์ เพราะเป็นทักขิไณยบุคคลควรแก่การบูชาคุณ
    ก. ศิษย์พึงบำรุงครูอาจารย์ ผู้เป็นทิศเบื้องขวา ดังนี้
    1. ลุกต้อนรับ
    2. เข้าไปหา
    3. ใฝ่ใจเรียน
    4. ปรนนิบัติ ช่วยบริการ
    5. เรียนศิลปะวิทยาโดยเคารพ
    ข. ครูอาจารย์ย่อมอนุเคราะห์ศิษย์ ดังนี้
    1. ฝึกฝนแนะนำให้เป็นคนดี
    2. สอนให้เข้าใจแจ่มแจ้ง
    3. สอนศิลปะวิทยาให้สิ้นเชิง
    4. ยกย่องให้ปรากฎในหมู่คณะ
    5. สร้างเครื่องคุ้มภัยในสารทิศ
  3. ทิศเบื้องหลัง คือ ทิศตะวันตก ( ปัจฉิมทิศ) ได้แก่ บุตรภรรยา เพราะมีขึ้นภายหลังและคอยเป็นกำลังสนับสนุนอยู่ข้างหลัง
    ก. สามีพึงบำรุงภรรยา ผู้เป็นทิศเบื้องหลัง ดังนี้
    1. ยกย่องให้เกียรติสมกับฐานะที่เป็นภรรยา
    2. ไม่ดูหมิ่น
    3. ไม่นอกใจ
    4. มอบความเป็นใหญ่ในงานบ้านให้
    5. หาเครื่องประดับมาให้เป็นของขวัญตามโอกาส
    ข. ภรรยาย่อมอนุเคราะห์สามี ดังนี้
    1. จัดงานบ้านให้เรียบร้อย
    2. สงเคราะห์ญาติมิตรทั้งสองฝ่ายด้วยดี
    3. ไม่นอกใจ
    4. รักษาทรัพย์สมบัติที่หามาได้
    5. ขยันไม่เกียจคร้านในงานทั้งปวง
  4. ทิศเบื้องซ้าย คือ ทิศเหนือ (อุตตรทิศ) ได้แก่ มิตรสหาย เพราะเป็นผู้ช่วยให้ข้ามพ้นอุปสรรคภัยอันตราย และเป็นกำลังสนับสนุน ให้บรรลุความสำเร็จ
    ก. บุคคลพึงบำรุงมิตรสหาย ผู้เป็นทิศเบื้องซ้าย ดังนี้
    1. เผื่อแผ่แบ่งปัน
    2. พูดจามีน้ำใจ
    3. ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
    4. มีตนเสมอ ร่วมสุขร่วมทุกข์กัน
    5. ซื่อสัตย์จริงใจต่อกัน
    ข. มิตรสหายย่อมอนุเคราะห์ตอบ ดังนี้
    1. เมื่อเพื่อนประมาท ช่วยรักษาป้องกัน
    2. เมื่อเพื่อนประมาท ช่วยรักษาทรัพย์สมบัติของเพื่อน
    3. ในคราวมีภัย เป็นที่พึ่งได้
    4. ไม่ละทิ้งในยามทุกข์ยาก
    5. นับถือตลอดถึงวงศ์ญาติของมิตร
  5. ทิศเบื้องล่าง ( เหฏฐิมทิศ) ได้แก่ คนรับใช้และคนงาน เพราะเป็นผู้ช่วยทำการงานต่างๆ เป็นฐานกำลังให้
    ก. นายพึงบำรุงคนรับใช้และคนงาน ผู้เป็นทิศเบื้องล่าง ดังนี้
    1. จัดการงานให้ทำตามความเหมาะสมกับกำลังความสามารถ
    2. ให้ค่าจ้างรางวัลสมควรแก่งานและความเป็นอยู่
    3. จัดสวัสดิการดี มีช่วยรักษาพยาบาลในยามเจ็บไข้ เป็นต้น
    4. ได้ของแปลกๆ พิเศษมา ก็แบ่งปันให้
    5. ให้มีวันหยุดและพักผ่อนหย่อนใจตามโอกาสอันควร
    ข. คนรับใช้และคนงานย่อมอนุเคราะห์นาย ดังนี้
    1. เริ่มการงานก่อนนาย
    2. เลิกงานหลังนาย
    3. ถือเอาแต่ของที่นายให้
    4. ทำการงานให้เรียบร้อยและดียิ่งขึ้น
    5. นำเกียรติคุณของนายไปเผยแพร่
  6. ทิศเบื้องบน (อุปริมทิศ) ได้แก่ สมณพราหมณ์ คือ พระสงฆ์ เพราะเป็นผู้สูงด้วยคุณธรรมและเป็นผู้นำทางจิตใจ
    ก. คฤหัสถ์ย่อมบำรุงพระสงฆ์ ผู้เป็นทิศเบื้องบน ดังนี้
    1. จะทำสิ่งใด ก็ทำด้วยเมตตา
    2. จะพูดสิ่งใด ก็พูดด้วยเมตตา
    3. จะคิดสิ่งใด ก็คิดด้วยเมตตา
    4. ต้อนรับด้วยความเต็มใจ
    5. อุปถัมภ์ด้วยปัจจัย 4
    ข. พระสงฆ์ย่อมอนุเคราะห์คฤหัสถ์ ดังนี้
    1. ห้ามปรามจากความชั่ว
    2. ให้ตั้งอยู่ในความดี
    3. อนุเคราะห์ด้วยความปรารถนาดี
    4. ให้ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง
    5. ทำสิ่งที่เคยฟังแล้วให้แจ่มแจ้ง
    6. บอกทางสวรรค์ คือ ทางชีวิตที่มีความสุขความเจริญให้

     ที่มา  http://www.easyinsurance4u.com/buddha4u/directions.htm
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น